หลังจากที่เขาได้ชุบชีวิต E21 ที่จอดมานานเกือบสองทศวรรษให้กลับมาโลดแล่นอีกครั้ง คุณเป๊ปซี่ – ภพศึก สุขสาคร ก็ได้พบกับความสุขจากการขับรถสองประตูที่มีความคลาสสิกอย่างที่ต้องการ
จำได้สมัยเด็ก ผมเคยนั่งมันครั้งแรกตอนที่เพื่อนคุณพ่อขับพาผมมากรุงเทพฯ ตอนนั้นเพื่อนคุณพ่อผมมีทั้ง 2002 และก็ E21 ซึ่งในสมัยนั้น ลองคิดดูเอาละกันว่าคนที่ขับ BMW มันโก้แค่ไหน ? เวลาผ่านไปกว่า 30 ปี พวกมันยังคงมีเสน่ห์สำหรับผมเหมือนเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือราคามันจับต้องได้”
นอกจากความทรงจำในวัยเด็กของคุณเป๊ปซี่กับรถ BMW สองประตูรุ่นคลาสสิกแล้ว สำหรับลูก ๆ ของเขาก็มีความชอบที่เหมือนกัน “ผมอยากได้ BMW 4 ตา” เป็นคำที่ลูกชายคนโตจากทั้งหมดสี่คน บอกกับเขาเมื่อถึงเวลาที่เขาต้องตัดสินใจมอบรถคันแรกให้เป็นของขวัญ จึงไม่มีช่วงเวลาไหนที่เหมาะสมกับการเป็นเจ้าของ BMW ที่เคยอยู่ในความทรงจำ ของเขาเท่ากับตอนนี้อีกแล้ว เมื่อช่วงปีที่ผ่านมาเขาจึงตัดสินใจที่จะซื้อรถ BMW คันแรก ซึ่งก็ไม่ได้โฟกัสไปที่รถอายุน้อยอย่าง G30, F30 หรืออะไรทำนองนั้น เขายังคงตามหาคูเป้คลาสสิกอย่าง E21 “ผมเป็นคนที่คลั่งไคล้รถคูเป้อยู่แล้วจึงตัดสินใจไม่ยากเลยที่จะมี E21 มาไว้ในครอบครอง ผมเริ่มตามหามันจากแหล่งต่าง ๆ จนกระทั่งเหมือนฟ้าประทาน เมื่อเพื่อนผมรู้ความต้องการว่าผมกำลังหารถรุ่นนี้อยู่ แล้วบังเอิญว่าในโรงงานของเขาก็มีรถหน้าตาแบบนี้อยู่”
คุณเป๊ปซี่กำลังเล่าถึงที่มาของรถคันที่เขากำลังยืนอยู่ข้าง ๆ ด้วยสีหน้าที่ประทับใจถึงวันแรกที่เขาเดินทางไปดูรถคันนี้ที่จอดนิ่งอยู่ในโกดังย่านชานเมืองของเพื่อนเขามานานกว่า 17 ปี ตลอดเวลาที่มันถูกจอดเก็บอยู่ในโกดังมานาน ทำให้มันมีฝุ่นเกาะหนาจนแทบไม่เห็นสีรถ และเขาก็เหลือบไปเห็นรถอีกคันที่จอดจมกองฝุ่นที่พอจะเดาได้ว่าจอดมายาวพอกันกับ E21 ที่เขามาดูในวันนี้ รูปทรงของมันเป็นเอกลักษณ์ที่บ่งชี้ว่ามันคือ E30 หรือ BMW 4 ตา ที่ลูกชายเขาเคยพูดถึง ในที่สุดเพื่อนของเขาก็ยื่นข้อเสนอที่ไม่อาจปฏิเสธได้ จนสุดท้ายต้องเรียกรถสไลด์มาเพิ่มอีกคัน เพราะจากที่ตั้งใจจะมาเอา E21 เพียงคันเดียว แต่เขากลับได้ E30 ติดไม้ติดมือกลับมาอย่างที่ไม่ได้คาดคิดมาก่อน
E21 เป็น 3 Series รุ่นแรกที่มีความชัดเจนของบอดี้ที่มาในรูปแบบของคูเป้ แต่ก็ไม่ใช่เสียทั้งหมด เพราะยังมีเวอร์ชั่นเปิดหลังคาที่ผลิตโดย BAUR ซึ่งปัจจุบันมันเป็นรถที่หายากและเป็นที่ต้องการของตลาดนักสะสม แน่นอนว่าในยุคสมัยนั้นคนไทยอย่าได้ฝัน เพราะยนตรกิจนำเข้ามาขายเฉพาะเวอร์ชั่นคูเป้อย่างเดียว โดยคันนี้เป็นรถ ‘เจ้าของมือเดียว’ ตั้งแต่ออกห้าง เท่านี้ก็ถือว่ามันมีโปรไฟล์ดีมากในระดับหนึ่งแล้ว ยังไม่นับรวมกับการไปจอดนิ่งอยู่กว่าครึ่งชีวิตของมันในโรงงาน ทำให้เลขไมล์ของมันขยับไปเพียงหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นกว่ากิโลฯเท่านั้น
โชคดีที่ชิ้นส่วนอุปกรณ์ของมันอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ แม้ว่าเรื่องผุจะเป็นที่ขึ้นชื่อของ E21 รวมถึง BMW อีกหลายรุ่นในช่วงอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน เป็นเหมือนฝันร้ายที่คอยตามหลอนคนเล่นรถคลาสสิกอยู่เป็นประจำ แต่หลังจากที่ล้างมันทุกซอกทุกมุมแล้ว ก็เผยให้เห็นถึงตัวถังสีฟ้า Biskayablau ซึ่งเป็นสีเบอร์เดิมของมันตั้งแต่ออกมาจากโรงงานที่ยังคงอยู่ในสภาพที่ดีทีเดียว แม้ว่าที่ชายประตู บันได และซุ้มล้อ ที่มักจะผุกันเป็นแถบ ยังอยู่ในสภาพที่ดี ต้องขอบคุณเจ้าของเก่าที่ได้ทำการปะผุและทำสีมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ด้วยกาลเวลาก็ยังมีบางจุดอย่างในมุมใต้แผงจิ้งหรีด และในหลุมยางอะไหล่ ที่เป็นจุดสะสมความชื้นไว้อย่างดีจนก่อเกิดสนิมขึ้นมาทำลายเนื้อเหล็กอีกครั้ง แต่คุณเป๊ปซี่ก็ยังไม่อยากที่จะรื้อชิ้นส่วนมันออกเป็นชิ้น ๆ เพื่อทำสีจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ เขาก็ได้ปฐมพยาบาลด้วยการการปะผุอย่างง่าย ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ป้องกันไม่ให้บาดแผลมันลุกลามใหญ่โตไปกว่านี้
E21 เป็นรถที่มีดีอยู่รอบตัว นอกจากรูปทรงที่ปราดเปรียว และความคล่องแคล่วในการขับขี่ของมัน หน้าฉลามของมันยังเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้ชายวัยกลางคนต้องหันมาให้ความสนใจกับมัน “เสน่ห์ของ E21 มันสวยตรงด้านหน้านะ หน้าฉลามของมันดูสวย แต่ท้ายมันไม่สวย สำหรับคันนี้เป็นรุ่นกันชนบิ๊กซึ่งบางคนก็จะเอาไปเปลี่ยนกันชนเป็นรุ่นกันชนเล็กเพราะมันสวยกว่า แต่เราพยายามทำเพื่ออนุรักษ์ ก็อยากให้มันเดิม ๆ จึงปล่อยไว้แบบนี้ แต่ก็มีการตกแต่งนิดหน่อยให้ตรงยุคอย่างกระจกมองข้าง ที่เอาของ E12 มาใส่ลงไป เพราะเราอยากได้โครเมียมที่มันรับกับขอบประตูสเตนเลส และมีลิ้นหน้า BBS สปอยเลอร์หลัง Foha ล้อก็เป็น BBS RS ขนาด 16 กว้าง 7 นิ้ว กับสปริงโหลด H&R” เขาแนะนำถึงแนวทางในการทำรถคันนี้อย่างที่ต้องการ ก่อนที่เราจะเปิดประตูเข้าไปชมการออกแบบภายในที่เห็นได้ชัดว่า BMW ให้ความสำคัญกับผู้ขับขี่เป็นหลัก ด้วยคอนโซลกลางที่หันเข้าหาคนขับ เป็นเอกลักษณ์ที่ยังคงสืบทอดมาถึงปัจจุบัน มันยังอยู่ในสภาพที่ดี อุปกรณ์ภายในยังคงใช้งานได้อย่างครบถ้วน กลิ่นของหนังที่เตะจมูกแค่เพียงชะโงกหน้าเข้าไป ยังคงให้อารมณ์ที่คลาสสิก
“หลังจากได้มาอย่างแรกเลยคือเอามาทำให้มันสตาร์ทติด ก็ปล้ำกันจนติด ถึงตอนนี้ก็ 7 เดือนกว่าแล้ว แต่ปัจจุบันก็ยังไม่ค่อยติดง่ายนัก ก็จอด ๆ ดับ ๆ ตามแยกมั่งอะไรมั่ง มันต้องลุ้นจริง ๆ นะ ผมเอามาขับนี่ดับกลางอากาศไป 5 ครั้งแล้ว ช่วงนี้เราก็พยายามวิ่งใกล้ ๆ ในรัศมี 10 กิโลเมตร ในเส้นราชพฤกษ์ เน้นใกล้บ้าน ใกล้อู่ และเลือกช่วงเวลาที่รถไม่ค่อยมาก ก็ค่อย ๆ ไล่ทำมันให้สมบูรณ์ที่สุด เพื่อที่จะให้มันสามารถใช้งานได้อย่างดี อย่างถังน้ำมันที่มันผุ ก็ต้องหาอะไหล่ให้ครบก่อน ซึ่งจริง ๆ แล้วปัจจุบันอะไหล่มันก็สามารถหาได้แทบทุกชิ้นนะ” คุณเป๊ปซี่เล่าให้เราฟังอย่างสนุกสนาน โดยไม่มีทีท่าถึงความเบื่อหน่ายในปัญหาของรถแต่อย่างใด แต่เหมือนเขามองเป็นเรื่องสนุกเสียด้วยซ้ำ
ซึ่งถึงแม้ว่าเครื่อง M10 จะขึ้นชื่อเรื่องอึดถึกทนจากการใช้โซ่ราวลิ้น แบบที่ไม่ต้องบำรุงรักษามันบ่อย ๆ แต่ปัญหาของมันที่พบก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากเดินเบาไม่เรียบ เร่งสะดุด ที่ส่วนใหญ่แล้วเกิดจากคาร์บูเรเตอร์ ซึ่งคุณเป๊ปซี่เองก็พบกับปัญหานี้อยู่เช่นกัน ทำให้บางครั้งก็สตาร์ทไม่ติดขึ้นมาซะเฉย ๆ แต่มันก็เปิดโอกาสให้เขาได้มองตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างคาร์บูเรเตอร์ WEBER ที่จะช่วยให้มันมีแรงดึงเพิ่มมากขึ้นอีกนิด และถึงแม้ว่าเขาอยากให้ห้องเครื่องของมันเดิมเพียงใด แต่สำหรับเมืองร้อนอย่างประเทศไทยก็ต้องหาวิธีรับมือกับอุณหภูมิที่ต้องยอมรับว่ามันร้อนจริง ๆ จึงต้องยอมที่จะอัพเกรดระบบระบายความร้อนด้วยหม้อน้ำอะลูมิเนียมใบหนา เพื่อที่จะลดความเสี่ยงต่อการโอเวอร์ฮีตจนฝาสูบร้าวในการขับใช้งาน
“สำหรับรถใหม่มันเป็นที่พาเราไปจุดใดจุดหนึ่ง แต่สำหรับรถคลาสสิกมันทำให้เรามีความรู้สึกที่มีความสุขเวลาที่ได้เห็น ได้มอง
ได้ลูบคลำมัน มันอาจเป็นรถที่แอร์ไม่ค่อยเย็นขับไปแล้วดับ แต่นั่นคือเสน่ห์ของรถคลาสสิกที่เราเอนจอยไปกับมัน ผมมองว่ามันเป็นเรื่องของรสนิยมมากกว่า”
E21 คันนี้เข้ามาเติมเต็มความชอบในรถ BMW 3 Series ของคุณเป๊ปซี่ให้ครบมากขึ้น โดยเสริมทัพให้กับ E30 Coupé, E30 Sedan และ E36 Coupé ที่เขาตั้งใจทำไว้เป็นของเล่นแก้เบื่อสำหรับลูกชาย ที่ยังสามารถจะเล่นอะไรกับมันก็ได้ ในขณะที่ E21 คันนี้เขาขออนุรักษ์ไว้แบบตรงยุคของมัน “นอกจากผมกับลูกจะเป็นพวกบ้ารถแล้ว ไลฟ์สไตล์ของผมและลูก ๆ นั้นเป็นประเภทที่ชอบเตะฟุตบอลมาก ความใฝ่ฝันก็อยากจะขับ BMW เหล่านี้ไปพร้อมกับลูก ๆ และจอดมันข้างกันทั้ง 4 คัน ข้างสนามฟุตบอล มันคงเป็นภาพที่พวกเราประทับใจ”
นอกจากความสุขที่ได้ขับมันแล้ว BMW คลาสสิกยังเป็นตัวเชื่อมคุณเป๊ปซี่และครอบครัวเข้ากันอย่างเหนียวแน่น ด้วยราคาที่ไม่ได้สูงจนเอื้อมไม่ไหว และมันก็ดูมีเสน่ห์ มันยังขับใช้งานได้และให้ความรู้สึกที่น่าพึงพอใจ ในขณะที่ราคามันยังไม่ดีดตัวขึ้นไปสูง นี่เป็นช่วงเวลาที่คุณก็ยังพอจับต้องมันได้อย่างคุ้มค่าก่อนที่มันจะถีบตัวขึ้นไปแบบ E30 และถึงแม้บางคันที่สภาพดี ๆ จะถูกตั้งราคาไว้อย่างโอเวอร์จากท้องตลาด แต่ถ้าคุณได้รถที่จอดมากว่าครึ่งชีวิตของมันอย่างคันนี้มันก็ดูเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่าการที่ต้องเริ่มบูรณะมันขึ้นมาจากศูนย์
BMWCar Magazine Thailand Issue 49, January-February 2019
สมัครสมาชิกนิตยสารรายปี 6 เล่ม เพียง 1,000 บ. รับฟรี #BIMMERMEET3 T-Shirt Limited Edition มูลค่า 500 บ. คลิก bit.ly/BMWCar-Line
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น