BMW E36 (Third Generation) 1990-2000
เมื่อเข้าสู่ยุค 90’s หลายสิ่งจึงต้องปรับเปลี่ยนไปตามแฟชั่น ครั้งนี้ Boyke Boyer นักออกแบบชาวออสเตรียและ Joji Nagashima นักออกแบบชาวญี่ปุ่น ใช้เวลาร่วมกันออกแบบถึง 5 ปี เพื่อรวบรวมกลิ่นอายของความเป็นตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน ในดีไซน์อวบอ้วนที่หลายต่อหลายครั้งมันมักถูกเรียกจากฝรั่งว่า Dolphin shape แต่เมืองไทยรู้จักกันดีในโฉมนกแก้ว จากหน้ากระจังที่รับกับสันบนฝากระโปรงที่โหนกนูนขึ้นมาเหมือนจมูกนกแก้ว อืม..ต้องยอมรับว่าคนไทยนี่จินตนาการดีเหมือนกันนะ
E36 ได้รับผิดชอบประวัติศาสตร์ที่ต่อเนื่องกันมาอย่างดี ไฟหน้ากลมคู่ถูกรวมอยู่ในกรอบกระจกสี่เหลี่ยม มันสร้างความแปลกใหม่ให้กับ BMW รวมถึงดีไซน์ที่ถูกลบเหลี่ยมคมต่าง ๆ ให้อ่อนช้อยขึ้น มันช่วยจัดการเรื่องของแอโร่ไดนามิกส์ให้ดีกว่ารุ่นก่อน และแม้ว่าจะมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นเนื่องจากคุณสมบัติความปลอดภัยที่แน่นหนามากกว่าเดิม แต่ยังคงการกระจายน้ำหนักให้ใกล้เคียง 50:50 เพื่อคงการขับขี่ที่สุดยอด
อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกถูกใส่เข้ามาเยอะขึ้น โดยนอกจากการเริ่มต้นไลน์ผลิตที่ด้วยตัวถัง Sedan แล้วต่อยอดตามมาด้วย Coupe, Cabriolet และ Touring เช่นเคยแล้ว ความก้าวหน้าในสายการผลิต ก็ยังเดินหน้าสร้างความหลากหลายด้วยตัวถังใหม่อย่าง “Compact” ที่มาในรูปแบบแฮ็ชแบคสามประตู เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้รถที่หลากหลายกลุ่มขึ้น จนมี E36 ทั้ง 5 รูปแบบตัวถังถูกจำหน่ายไปถึง 2,745,780 คัน
และสำหรับลูกค้าเท้าไฟทั้งหลายก็คงหนีไม่พ้นเวอร์ชั่น M3 ที่ครั้งนี้นอกจาก M3 แบบ Coupe แล้ว ยังทำรถ M3 รุ่น Sedan สี่ประตู และ Convertible อีกด้วย โดยใช้เครื่องยนต์ 6 สูบรหัส S50 ที่เวอร์ชั่นแรกมากับความจุ 3.0 ลิตร 286 แรงม้า ก่อนจะพัฒนาเพิ่มด้วย Dual Vanos พร้อมขยายความจุเป็น 3.2 ลิตร จนรีดแรงม้าออกมาได้สูงถึง 320 แรงม้า แต่กระนั้น E36 M3 ได้รับฉายาว่าเป็น M ที่ดูสุภาพและถ่อมตนที่สุด ด้วยความที่มันไม่ได้มีโป่งล้อขนาดมหึมา ซึ่งเมื่อดูเผิน ๆ มันยังคูคล้าย 3 Series รุ่นปกติซะด้วยซ้ำ
BMWCar Magazine Thailand Issue 51, May-June 2019
สมัครสมาชิกนิตยสารรายปี 6 เล่ม เพียง 1,000 บ. รับฟรี #BIMMERMEET3 T-Shirt Limited Edition มูลค่า 500 บ. คลิก bit.ly/BMWCar-Line
#BMWCarMagazineTH #BMWTH
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น