
BMW ได้สร้างรถยนต์ที่โรงงานในมิวนิคตั้งแต่ปี 1922 ซึ่งในปีที่ผ่านมาเป็นเหมือนการเฉลิมฉลองความสำเร็จของ 3 Series
BMW เฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของโรงงานใน Munich ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีคำว่า ‘Bayerische Motoren Werke’ ได้ถือกำเนิดขึ้นที่โรงงานในย่าน Milbertshofen ตั้งแต่ปี 1922 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โมเดลที่โดดเด่นที่สุดของ BMW ก็เริ่มออกจากสายการผลิต ตั้งแต่ Isetta ไปจนถึง 3 Series และ M3 เมื่อเร็ว ๆ นี้ สถานที่แห่งนี้ได้ถูกเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ BMW เรียกว่า ‘iFactory’ โดยในปีนี้ สายการผลิตครึ่งหนึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นการผลิตแบตเตอรี่ของรถยนต์พลังงานไฟฟ้า
ในช่วงเริ่มต้นเครื่องยนต์ของเครื่องบินและรถจักรยานยนต์ถูกผลิตวันต่อวัน ย้อนกลับไปก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 โรงงานในมิวนิกได้มีการฉลองการผลิตจักรยานยนต์ BMW ครบ 100,000 คัน ระหว่างช่วงเวลาอันมืดมนในปี 1938 และ 1945 การผลิตทั้งจักรยานยนต์และเครื่องบินยังคงดำเนินต่อไป เมื่อสิ้นสุดสงครามอาคารส่วนใหญ่ถูกทำลาย โรงงานแห่งนี้ถูกยึดครองโดยกองทหารอเมริกันและได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว โดยมันได้รับมอบหมายให้ซ่อมแซมยานพาหนะของกองทัพสหรัฐและใบอนุญาตให้เริ่มการผลิตรถจักรยานยนต์รวมไปถึงยานพาหนะเพื่อการเกษตรตามมาในไม่ช้า
ในปี 1952 รถยนต์คันแรกถูกสร้างขึ้น BMW 501 มีพื้นฐานมาจากยุคก่อนสงครามอย่าง BMW 326 บางทีอาจเป็นการผสมผสานระหว่างอดีต Isetta ‘motorcoupé’ ได้มาถึงในปี 1955 สร้างขึ้นภายใต้ใบอนุญาตจาก ISO ในมิลานเพื่อรักษาอนาคตของโรงงาน BMW 1500 ได้เข้าสู่การผลิตในปี 1962 ในช่วงท้ายของทศวรรษที่ 60 การผลิตรถจักรยานยนต์ได้สิ้นสุดลง

Plant Milbertshofen ดูค่อนข้างแตกต่างออกไปในทศวรรศที่ 20

ภาพถ่ายทางอากาศของอาคารแห่งนี้ในช่วงทศวรรษที่ 30

ในปี 1969 มีการขยายสายการผลิตของโรงงานอย่างเห็นได้ชัด

ปี 1945 หลายอาคารได้ถูกทำลายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
ในปี 1975, 3 Series ได้มาถึงโรงงานได้คงไว้ซึ่งสายการผลิตต่อไปเรื่อย ๆ และอีก 2 ปีต่อมาพวกเขาได้สร้างเครื่องยนต์สำหรับผลิตภัณฑ์ของ BMW ทั้งหมด ซึ่งรวมถึง 3 Series ในเดือนพฤศจิกายนปี 1978, 3 Series คันที่ 500,000 ได้ออกจากสายการผลิต ในช่วงปลายทศวรรษที่ 70 สิ่งต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก อาคารเก่าได้รับการดัดแปลงสร้างใหม่และประตูทางทิศใต้บน Dostlerstrasse ที่สร้างขึ้นในปี 1934 ได้ถูกทุบทิ้ง สิ่งนี้เป็นการวางรากฐานสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้วงใหญ่ที่จะเกิดขึ้น
ในช่วงปี 1990 สายการผลิตได้เข้าสู่การผลิตแบบอัตโนมัติ ส่วนหนึ่งมาจากสถานที่ตั้งของโรงงานซึ่งอยู่ในใจกลางมิวนิก ในปี 2000 Imola โรงเก็บเครื่องยนต์แห่งใหม่ได้มาถึง การเพิ่มระบบโลจิสติกส์สำหรับเครื่องยนต์ทำให้เพิ่มความคล่องตัวในการผลิตเครื่องยนต์สำหรับแบรนด์ สี่ปีต่อมาได้มีการเฉลิมฉลองการสร้างรถยนต์คันที่ 7 ล้านและทำให้เป็นคันที่ 8 ล้านภายในฤดูร้อนปี 2009 ในช่วงปี 2010 พวกเราได้เห็นวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องของรถยนต์และเครื่องจักร ในปี 2014 ได้เริ่มทำชิ้นส่วนของรถยนต์ไฟฟ้า ในปี 2016 ได้มีการเฉลิมฉลอง BMW คันที่ 10 ล้านในสายการผลิตที่มิวนิก หนึ่งปีต่อมาพวกเขาได้เปิดอู่ทำสีแห่งใหม่ขึ้นพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอันล้ำสมัยทำให้มันกลายเป็นโรงงานที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมในช่วงเวลานั้น มาถึงปี 2019 โรงงานแห่งนี้ได้สร้างรถยนต์จำนวนมากที่สุด โดยมีการผลิตรถยนต์ประมาณ 230,000 คันต่อปี และหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาได้เริ่มต้นสายการผลิตสำหรับ i4 ด้วยเงินลงทุนกว่า 200 ล้านยูโร

ภาพจากปี 2019 แสดงให้เห็นว่าโรงงานตั้งอยู่ใจกลางมิวนิก
สำหรับสายการผลิตเครื่องยนต์ในปี 2020 ได้ถูกย้ายไปยังโรงงานในออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร มิวนิกกลายเป็นโรงงานผลิตสำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โรงงานเก่าถูกแทนที่ด้วยโรงงานใหม่ ขณะที่อาคารใหม่ 2 อาคารถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่จะเกิดขึ้นในปี 2026 มาถึงในปี 2021 โมเดลที่แตกต่างกันถึง 5 รุ่นได้ถูกสร้างขึ้นในมิวนิกและได้มีการเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปีของโรงงานกับพนักงานด้วยงานเลี้ยงพิเศษถึงสองวันแก่พนักงานในบริษัท
Milan Nedeljkovic คณะกรรมการบริหารฝ่ายการผลิตของ BMW AG กล่าวว่า “รากฐานของเราอยู่ที่มิวนิก โรงงานแห่งนี้เป็นเหมือนต้นกำเนิดและอนาคตของเรา มันคือสถานที่ผลิตที่มีเทคโนโลยีจำนวนมาก BMW ที่มีประสิทธิภาพประมาณ 900 คันออกจากโรงงานแห่งนี้ทุกวัน สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นถึงประสบการณ์และทักษะที่หลากหลายของผู้คนในโรงงานแห่งนี้แน่นอนว่าพวกเขาคือแรงผลักดันที่ทำให้โรงงานพัฒนาต่อไปในอนาคต”
Oliver Zipse CEO กล่าวว่า “โรงงานของเราในใจกลางเมืองมิวนิกได้พัฒนาสิ่งต่าง ๆ ตามกาลเวลา ด้วยมุมมองที่ชัดเจนต่ออนาคตทำให้มันถูกพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ”
ในปีฉลองครบรอบ 100 ปี โรงงานมิวนิกกำลังแสดงให้เห็นถึงบทบาทผู้นำแห่งยุคของการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบอย่าง i4 คิดเป็น 1 ใน 4 ของปริมาณการผลิตและกำลังเพิ่มมากขึ้น Zipse กล่าวว่า “ความต้องการของ i4 มีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเราจึงเพิ่มการผลิตให้มากขึ้น ในปีหน้ารถทุกคันที่ออกจากโรงงานมิวนิกจะเป็นระบบไฟฟ้าทั้งหมด ตามแผนปัจจุบันนั่นหมายความว่า i4 มากกว่า 100,000 คันจะออกจากสายการผลิตสำหรับลูกค้าทั่วโลก” Nedeljkovic กล่าวเสริมว่า “นั่นหมายความว่า ภายในปี 2030 คือการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ BEV เป็น 50 เปอร์เซ็นต์”

i4 ได้อยู่ในสายการผลิตที่โรงงานในมิวนิกตั้งแต่ปี 2021

อาคารบริหารและอู่ซ่อมที่โรงงานในมิวนิกปี 2022
นวัตกรรมเป็นสิ่งที่ทำให้โรงงานในมิวนิกพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยได้ผลิต MINI E ไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรก, Z8 อันเป็นเอกลักษณ์และรุ่นไฟฟ้าพิเศษนั่นคือรุ่น 1602 สำหรับโอลิมปิกฤดูร้อนปี 1972 ไม่ต้องพูดถึงโปรเจกต์ i ปิดท้ายด้วย BMW i3 ซึ่งเป็นการปฎิวัติวงการ โดยมันมีต้นกำเนิดที่โรงงานแห่งนี้เช่นกันการแปลงเป็น “iFactory” ซึ่งแสดงให้เห็นแล้วว่าโรงงานที่มีอายุกว่าศตวรรษแห่งนี้มีกระบวนการผลิตที่ยอดเยี่ยมและพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ ในอนาคตข้างหน้า BMW และโรงงานในมิวนิกได้ถูกหล่อหลอมให้รวมเป็นหนึ่งเดียวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว