Baroque Angel BMW 502 เทพีผู้เรียกคืนสถานะผู้ผลิตรถยนต์คุณภาพสูงและมีเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นอีกครั้ง

BMW 502 เทพีผู้เรียกคืนสถานะผู้ผลิตรถยนต์คุณภาพสูงและมีเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นให้กับ BMW อีกครั้ง หลังสงครามโลกครั้งที่สอง

ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของเยอรมันอย่าง BMW ผ่านการเฉลิมฉลองการครบรอบมากว่า 107 ปี แต่กว่าจะมายิ่งใหญ่ในวันนี้ พวกเขาเคยฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อความอยู่รอดมาหลายครั้ง นับตั้งแต่ก้าวแรกที่เขาเริ่มก่อตั้งบริษัทในปี 1916ผลิตเครื่องยนต์เครื่องบินจนสร้างชื่อเป็นเครื่องยนต์ที่ดีที่สุดในยุคนั้น แต่ไม่นานก็เกิดสงครามโลก และเยอรมนีก็แพ้สงคราม ทำให้การผลิตเครื่องยนต์เครื่องบินกลายเป็นเรื่องผิดกฎหมายในเยอรมนี จากผลของสนธิสัญญาแวร์ซาย จนต้องหันไปผลิตเครื่องมือการเกษตร และเบรกรถไฟ เพื่อให้กิจการอยู่รอด

หลังการควบรวมกิจการกับ BFW (Bayerische Flugzeugwerke) ในปี 1922 ก็เริ่มผลิตรถมอเตอร์ไซค์คันแรก BMW R32 ในปีถัดมา ก่อนที่จะเริ่มก้าวเข้าสู่การผลิตรถยนต์ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์จาก Austin มาผลิต BMW 3/15PS หรือ Dixi เป็นรถยนต์คันแรกของ BMW ก่อนที่จะผลิตรุ่นอื่น ๆ ตามมา และในขณะที่รถยนต์และมอเตอร์ไซค์ของ BMW กำลังจะไปได้สวย ก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 และ BMW ก็ต้องไปผลิตเครื่องยนต์เครื่องบินให้กับกองทัพ และผลคือเยอรมนีก็แพ้สงครามอีก คราวนี้ โรงงานและเครื่องจักรต่าง ๆ พังเกือบหมด ในระหว่างนั้น BMW ต้องหันไปผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือนเพื่อสะสมเงินทุน

จนกระทั่ง BMW ก้าวเท้าเข้าสู่วงการรถยนต์อีกครั้งในปี 1952 โดยรถยนต์คันแรกหลังสงครามของ BMW คือ 501 ที่คราวนี้จัดเต็มเรื่องสมรรถนะ เป็นรถซีดานหรูหราขนาดใหญ่ที่รองรับคน 6 คนได้สบาย และถือว่าเป็นรถที่มีเทคโนโลยีล้ำสุดในช่วงเวลานั้น ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 6 สูบ แบบที่เคยใช้ใน BMW 326 ช่วงก่อนสงคราม แต่กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันว่า BMW เปลี่ยนแค่บอดี้ให้มันดูใหม่เท่านั้น แม้ว่าจะไม่สำเร็จในเชิงพาณิชย์เท่าไหร่นัก แต่มันก็คือการคืนสถานะของผู้ผลิตรถยนต์คุณภาพสูงและมีเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นอย่าง BMW

พวงมาลัยกระเช้า และเกียร์คอสี่สปีดแบบดั้งเดิม

เพื่อลบคำเย้ยหยันจากหลาย ๆ ฝ่ายที่พูดถึงการใช้เครื่องยนต์ที่ไม่เหมาะสมกับตัวถังนั้น พวกเขาจึงได้นำเสนอ BMW 502 ที่หน้าตาละม้ายคล้ายกับ 501 แต่มีการตกแต่งที่ดู Luxury มากกว่า ในงานแสดงรถยนต์เจนีวาในปี 1954 และได้สร้างความประหลาดใจให้กับสาธารณชนเมื่อ BMW เปิดฝากระโปรง 502 ออกมาแล้วไม่ใช่เครื่องยนต์หกสูบเรียง แต่เป็น ‘V8’ 2.6 ลิตร 100 แรงม้า มันซ่อนคู่แข่งอย่าง Mercedes-Benz Ponton ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้เล็กน้อยไว้ในเงามืดทันที

จากเส้นสายการออกแบบของรถที่โค้งมนของ BMW 501/502 ได้ถูกขนานนามว่า ‘Baroque Angel’ ( เทพีแห่งยุคบาโรค ) โดยอ้างอิงจากรูปร่างที่โค้งมนและพลิ้วไหวของลำตัว ซึ่งชวนให้นึกถึงยุคบาโรกแต่สิ่งที่น่าสนใจนอกเหนือจากเส้นสายภายนอก เห็นทีจะอยู่ที่ขุมพลังใต้ฝากระโปรงของรถ อันเป็นที่อยู่ของเครื่องยนต์อลูมิเนียม V8 เครื่องแรกของโลก และยังเป็นรถยนต์เยอรมันคันแรกหลังสงครามที่ติดตั้งเครื่องยนต์ V8 ซึ่ง ณ เวลานั้นนับเป็นก้าวสำคัญที่ล้ำหน้ามากสำหรับเทคโนโลยีเครื่องยนต์ เช่นเดียวกับเทคโนโลยี ระบบดิสก์เบรก และพาวเวอร์คลัทช์ ซึ่งภายหลังก็ถูกจัดเป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่รถยนต์ทั่วไปพึงมี

“Baroque Angel” อันเป็นที่รักนี้สามารถขับบน Autobahn ได้อย่างรวดเร็ว สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ด้วยเหตุนี้ BMW 502 ยังถูกเลือกนำมาใช้ในการลาดตระเวนของตำรวจและนักดับเพลิง สำหรับเหตุด่วนเหตุร้าย จากพละกำลังและความทนทานที่สามารถไว้วางใจได้ของเครื่องยนต์ BMW V8

แต่รถซีดานตกแต่งอย่างหรูหราเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่มีราคาสูงลิ่วในสมัยนั้น ไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่ากับรถขนาดเล็กอย่าง ISETTA ทำให้จำนวนยอดขายของรถที่เส้นสายสวยงามอย่าง 502 นั้นไม่ได้สร้างผลกำไรงดงามตามที่ตั้งใจ เนื่องจากเป็นรถยนต์หรูหราราคาแพงในช่วงเวลาที่ผู้คนส่วนใหญ่ประสบปัญหาทางการเงินหลังสงคราม ไม่นานจึงต้องยุติการผลิตไป นั่นทำให้จำนวนของ 502 นั้นมีอยู่ไม่มากนัก และกาลเวลาที่ผ่านไปกว่า 70 ปีนั้นก็ทำให้ประชากรของ 502 นั้นน้อยลงไปอีก

รถที่หายากสีดำคันนี้มีเจ้าของเพียงคนเดียวและอยู่ในครอบครองของทายาทของเขาเป็นเวลานาน แต่เนื่องจากเจ้าของเก่าต้องขยายพื้นที่ภายในบ้าน ในอดีตรถคันนี้จึงถูกจอดทิ้งอยู่ใต้ต้นมะม่วงมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง เมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมาก็ถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนมือ โชคชะตาก็เหมือนคัดสรรเจ้าของคนใหม่ที่มีใจรักในรถคลาสสิก และการเลือกนี้ไม่ผิด เจ้าของคนใหม่ดำเนินการบูรณะมันในระดับที่เข้มข้น และได้รับการดูแลอย่างดีนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา สภาพของ BMW 502 คันนี้ ยังคงมีตัวถังที่ดูเรียบร้อย ประตูแบบ ‘ตู้กับข้าว’ ดูเหมือนจะเป็นสัญลักษณ์ของยุคสมัย งานสียังอยู่ในสภาพดี เพราะได้รับการบูรณะตั้งแต่ตอนที่ได้มาด้วยการจัดการกับสนิมบนตัวถังออกทั้งหมด มีร่องรอยการใช้งานปกติเล็กน้อย ล้อเหล็กทั้งสี่ติดตั้งฝาครอบดุมล้อแบบ ‘ฝาตบ’ ที่ถูกต้องตรงรุ่น คิ้วรอบคันมีความสวยงามและชิ้นส่วนยังคงอยู่ครบตามแคตตาล๊อก

“ทุกอย่างบนคันนี้จะเน้นของเดิมหมด เพราะของเดิมที่ untouched มันทำขึ้นมาใหม่ไม่ได้”

รถคันนี้เป็นรถปี 1955 มีเอกสารจำนวนมากที่บ่งชี้ถึงประวัติความเป็นมาของรถคันนี้ ในคู่มือเซอร์วิสที่ติดรถมาจากตัวแทนจำหน่ายที่ Muchen ในเวลานั้น ระบุว่าออกมาในเดือนกรกฎาคม ปี 1955 และมีเจ้าของคนแรกคือ หม่อมเจ้าโกลิต กิติยากร แห่งสยามประเทศ จากเอกสารที่ปรากฏ ท่านใช้รถคันนี้อยู่ในยุโรปถึงเดือนสิงหาคม โดยเข้าเซอร์วิสที่ศูนย์บริการครั้งที่ 3 ด้วยเลขไมล์ 10,000 กิโลเมตร ก่อนจะถูกส่งออกจากเยอรมนีมาประเทศไทย และถึงเมืองไทยในปีถัดมา ( สมัยนั้นการขนส่งรถยนต์ข้ามประเทศต้องใช้ทางเรือเท่านั้นทำให้กินเวลาเดินทางหลายเดือน ) คู่มือจดทะเบียนที่ประเทศไทยยังระบุรายละเอียดด้วยลายมือเต็มไปหมดไม่ได้เป็นการพิมพ์ด้วยคอมพิวเตอร์แบบในปัจจุบัน แผ่นป้ายภาษีสมัยยังเป็นวงกลม พร้อมนิตยสารของชมรม BMW V8 รวมถึงรายการชิ้นส่วน ใบเสร็จการเบิกอะไหล่ และเอกสารข้อมูลทั่วไปมากมายเกี่ยวกับ BMW 502 ที่หายากในสมัยนี้ ถูกเก็บรวบรวมไว้บอกเล่าเรื่องราวได้เป็นอย่างดี

ในขณะที่เรากำลังดูเอกสารไปด้วยความตื่นเต้น ทางครอบครัวนักสะสม ก็เล่าถึงประสบการณ์และที่มาของเอกสารเหล่านี้ “สมัยก่อนไม่มีอินเทอร์เน็ต การค้นคว้าข้อมูลต่าง ๆ เป็นไปได้ยาก ต้องแฟกซ์เพื่อขอข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถหรือแม้กระทั่งการซื้อชิ้นส่วนอะไหล่ก็ตาม Parts Book จึงเป็นสิ่งสำคัญ ที่คนเล่นรถพวกนี้ต้องมีและศึกษามัน เวลาที่บินไปต่างประเทศก็จะหาซื้อหนังสือเหล่านี้อยู่ตลอด การสั่งอะไหล่จากต่างประเทศก็ต้องเป็นไปตามระเบียบ คือต้องเป็นสมาชิกของชมรมรถคลาสสิกถึงจะสามารถสั่งได้  ทั้งนี้เพื่อป้องกันการเก็งกำไรของนักลงทุน เขาอยากให้อะไหล่มาอยู่กับเจ้าของรถจริง ๆ ซึ่งพวกนี้ก็จะมีฐานข้อมูลของเจ้าของรถประมาณหนึ่ง” เมื่อครั้งเจ้าของรถคันนี้ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก BMW V8 official club พร้อมกับการส่งข้อมูลต่าง ๆ ของรถคันนี้ไปเพื่อยืนยันการลงทะเบียนผ่านแฟกซ์ ทางชมรมก็แฟกซ์กลับมาในใจความว่า “ปัจจุบันมีสมาชิกรุ่นนี้ 11 คัน และยินดีที่พบเราเป็นคันที่ 12 ที่ยังหลงเหลือจากทั่วโลก เขายังงงว่าเหลือในโลกอีกหรือ ยิ่งบอกว่ารถคันนี้อยู่ในประเทศไทย ยิ่งสร้างความน่าประหลาดใจให้กับทางชมรมมากขึ้นไปอีก”

ภายในห้องโดยสารเผยให้เห็นถึงอายุของมัน BMW 502 คันนี้เป็นการผสมผสานระหว่างวัสดุที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในเวลานั้น ที่คอนโซลและประตูมีการฝังไม้ที่สวยงามและเบาะผ้าที่มีคุณภาพสูงสุด พรมที่ถักทออย่างดี ตัดเย็บด้วยขนาดที่พอดี ผ้ายางปูพื้นที่ปั๊มโลโก้ BMW ยังคงชัดเจน เรือนไมล์และนาฬิกาตกแต่งด้วยสีทองหรูหรา อุปกรณ์ทั้งหมดอยู่ในสภาพดีและมีเอกลักษณ์แบบดั้งเดิม เบาะนั่งดูดีเกินกว่าอายุของมันแถมยังนั่งสบายมาก วัสดุบุหลังคายังอยู่ในสภาพดีมากถึงแม้จะมีร่องรอยมอดที่กัดกินไปบ้าง แต่นี่คือของเดิมที่ไม่ได้ซ่อมแซมหรือสร้างขึ้นมาใหม่ แต่มันคือของที่ติดรถมาจากปี 1955 !

ใต้ฝากระโปรงของ BMW 502 คันนี้ใช้เครื่องยนต์ 8 สูบแบบ V ทำมุม 90 องศา ความจุ 2.6 ลิตร จ่ายน้ำมันด้วยคาร์บูเรเตอร์ Solex ตัวเดียว มีกำลัง 100 แรงม้า ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในรถซีดานที่เร็วที่สุดในเวลานั้น แม้ว่าภายหลังเพิ่มรุ่น Super ที่มีเครื่องขนาดใหญ่ 3.2 ลิตรพร้อมคาร์บูเรเตอร์ Zenith คู่ มีกำลังอย่างน้อย 120 แรงม้า ( ข้อมูลบางแหล่งบอกว่ามีถึง 160 แรงม้า ) ในทางกลไกแล้วรถคันนี้ได้รับประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของช่างเครื่องที่ดี เขาบำรุงรักษามันได้ดีมาก ที่ฝาสูบและเสื้อสูบปราศจากรอยรั่วไหลของของเหลว เครื่องยนต์ส่งเสียงคำรามผ่านท่อไอเสียอย่างทรงพลังได้ในทันทีที่บิดกุญแจ และมันยังดูมีเสน่ห์ในช่วงเวลาที่เจ้าของขยับให้เราถ่ายรูปอย่างเพลิดเพลิน

เจ้าของคนปัจจุบัน น้องไท และน้องทีน่า ทายาของคุณพ่อสยาม-คุณแม่คริสตี้ เศรษฐบุตร นักสะสมรถคลาสสิกระดับเบอร์ต้นของเมืองไทย

 

ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เราพอเดาได้ว่าเจ้าของรถต้องใช้ความพยายาม และอัดฉีดเงินทุนจำนวนมาก เพื่อฟื้นฟูสภาพ  BMW 502 คันนี้ โดยไม่ได้มองว่านี่เป็นเพียงรถเก่าหลังสงคราม แต่มันยังคุ้มค่าที่จะอนุรักษ์ไว้สำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไปได้สรรเสริญถึงความยิ่งใหญ่ของแบรนด์ BMW มันเป็นรถที่จะทำให้คุณรู้สึกพิเศษสุด ๆ ได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็น แล้วต่อจากนั้นเรื่องราว ข้อมูล และประวัติศาสตร์ ที่น่าสนใจของรถคันนี้จะทำให้หัวใจของคุณพองโต สมกับเป็น Baroque Angel อย่างแท้จริง

 

 

Share