BMW i CAR ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าสู่อนาคต

BMW i3

ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรกที่ผลิตภายใต้ Project i ของ BMW เป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าขับเคลื่อนตัวรถโดยไม่มีการสร้างมลพิษในขณะขับขี่ i3 เป็นรถยนต์ยอดนิยมที่หลายคนชื่นชอบด้วยรูปทรงที่เรียบหรูดูโดดเด่น มาพร้อมกับการออกแบบที่ดูล้ำสมัย กระจังหน้าและสปอยเลอร์ที่ดูสะดุดตา มันคือรถยนต์แฮทช์แบ็กหลังคาสูง B-Segment ที่มาพร้อมกับระบบส่งกำลังไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยล้อหลังด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ถูกออกแบบโดย Richard Kim ซึ่งนำเสนอตัวรถในรูปแบบห้าประตู โดยภายในห้องผู้โดยสารได้ใช้วัสดุ CFRP (คาร์บอนไฟเบอร์) เพื่อให้ตัวรถมีความแข็งแรงทนทานและมีน้ำหนักที่เบาลง มาพร้อมกับระบบความปลอดภัยระดับพรีเมียมเป็นการผสมผสานระหว่างนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อให้ได้ศักยภาพในการขับขี่ที่สมบูรณ์แบบที่สุด

มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถสร้างกำลังสูงสุดได้ถึง 170 แรงม้า (125 กิโลวัตต์) ส่งกำลังไปยังล้อหลังทันทีผ่านเกียร์อัตราทดเดียว สำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสามารถส่งกำลังให้รถวิ่งได้ถึง 130-160 กิโลเมตร BMW i3 จึงเป็นยนตรกรรมไฟฟ้ารุ่นแรกที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองอย่างแท้จริง

BMW i8

ยนตรกรรม Sport ปลั๊กอินไฮบริดคันแรกที่ผสมผสานระหว่างความยั่งยืนเข้ากับงานดีไซน์อันโดดเด่นอีกทั้งยังมีสมรรถนะในการขับขี่ที่ยอดเยี่ยมอย่างสมบูรณ์แบบ BMW i8 คือรถยนต์สปอร์ตสมรรถนะสูงที่มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเทียบเท่ากับรถขนาดเล็ก เป็นการผสมผสานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้าที่ขับเคลื่อนล้อหน้าและเครื่องยนต์สามสูบ TwinPower ที่ขับเคลื่อนล้อหลัง ทำให้รถคันนี้มีกำลังแรงม้าที่ 362 แรงม้า (266 กิโลวัตต์)และนับตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมามันก็สามารถส่งกำลังได้ถึง 374 แรงม้า (275 กิโลวัตต์) ซึ่งเป็นการผสมผสานระบบที่ดีที่สุดทั้งสองแบบเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว

ในเวลาต่อมา ยนตรกรรมแห่งอนาคตคันนี้ได้เป็น Production Vehicle รุ่นแรกที่มาพร้อมกับไฟหน้าเลเซอร์ที่เป็นอุปกรณ์เสริมและในปี 2018 ได้มีการจำหน่ายเป็นรุ่น Roadster อีกด้วย BMW i8 จึงเป็นยนตกรรมสปอร์ตปลั๊กอินไฮบริดที่มาพร้อมกับสมรรถนะที่ยอดเยี่ยมอีกทั้งยังประหยัดเชื้อเพลิงในเวลาเดียวกันตอบโจทย์ผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ตที่สามารถใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน

BMW iX3

.               ยนตรกรรม SUV รุ่นแรกของ BMW ที่ได้นำเอาเทคโนโลยีแห่งอนาคตเข้ามาใช้กับรถเต็มรูปแบบและยังมาพร้อมตัวเลือกการชาร์จไฟฟ้าอัจฉริยะที่ทำงานร่วมกับระบบขับเคลื่อนทำให้สมรรถนะในการขับขี่ยังคงยอดเยี่ยม มากไปกว่านั้นยังมีการดีไซน์ฟีเจอร์ต่างๆ ได้อย่างมีเอกลักษณ์ ภายในตัวรถมาพร้อมกับปุ่มสตาร์ทสีฟ้าและระบบไฟแบบ Ambient light มาตรฐานที่มีการตั้งสีไว้เป็นสี BMW I Blue

เทคโนโลยีของรถเต็มไปด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ ควบคู่กับความโมเดิร์นสุดทันสมัย มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่สามารถสร้างกำลังแรงม้าได้ถึง 286 แรงม้า (210 กิโลวัตต์) ทำให้รถมีสมรรถนะตามมาตรฐานของ BMW ยิ่งไปกว่านั้นยังมั่นใจได้ในความยั่งยืนที่เพิ่มเข้ามาโดยการผลิตส่วนประกอบต่างๆ ของระบบขับเคลื่อนที่ไม่ได้นำวัตถุดิบที่ผลิตทดแทนไม่ได้ (Rare Earths) มาใช้ สำหรับระบบชาร์จไฟสามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 10 – 80 เปอร์เซ็นต์ในเวลาเพียง 34 นาที การดีไซน์ของตัวรถกระจังหน้าไตคู่ถูกปิดสนิทพร้อมดีไซน์ลวดลายแบบ Mesh ส่วนล่างของกระจังสามารถควบคุมการเปิดปิดด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าถึง 10 ระดับซ่อนไว้ภายใน เพื่อใช้ควบคุมปริมาณอากาศที่เข้าไประบายความร้อนในชิ้นส่วนต่างๆ ให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะแก่การใช้งานตลอดเวลา BMW iX3 จึงเป็นรถที่เหมาะสำหรับครอบครัวไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไกลหรือการใช้งานในชีวิตประจำวันอย่างแน่นอน

BMW i4

        ยนตรกรรม Gran Coupe ไฟฟ้าคันแรกของ BMW ด้วยสมรรถนะที่เหนือชั้นที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายและการขับขี่โดยไม่ปล่อยมลพิษอย่างสมบูรณ์แบบ มันคือรถยนต์ที่ได้รับการผสมผสานระหว่างระบบส่งกำลังและแชสซีเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ โดยใช้ความเชี่ยวชาญที่สั่งสมมาหลายสิบปีสร้างรถยนต์ที่มีสมรรถนะในการขับขี่ที่มีประสิทธิภาพและความสะดวกสบายในการขับขี่ระยะไกล

แม้จะเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแต่ i4 ก็สามารถสร้างกำลังแรงม้าสูงสุดได้ถึง 544 แรงม้า (400 กิโลวัตต์) ซึ่งแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะในการขับขี่ยังคงยอดเยี่ยม การขับไปยังสถานที่ต่างๆ มีทั้งความนุ่มนวลและไร้เสียงรบกวน การดีไซน์ของตัวถังได้รับการออกแบบเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการเข้าโค้งได้อย่างแม่นยำด้วยการกระจายน้ำหนักให้มีความสมดุลทั้งระบบขับเคลื่อนและช่วงล่างให้การตอบสนองอย่างฉับไว ทำให้ BMW i4 เป็นยนตรกรรมไฟฟ้าที่เพียบพร้อมด้วยความอเนกประสงค์และเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการใช้งานในชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก

BMW iX

ยนตรกรรม All-Electric SAV คันแรกของ BMW มาพร้อมระบบขับเคลื่อนสี่ล้อที่มีทั้งความหรูหราและความประณีตแบบมินิมอลผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีมอเตอร์ไฟฟ้าสุดทันสมัย ที่มอบความสะดวกสบายอย่างมีเอกลักษณ์แก่ผู้โดยสาร การดีไซน์มาพร้อมกับไฟหน้าทรงเรียวแคบผสานเข้ากับกระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ มือจับประตูรวมถึงประตูไร้กรอบและซุ้มล้อแบบใหม่ทำให้รถดูมีความโมเดิร์นดูหรูหราแต่ยังคงไว้ซึ่งความมินิมอล

ระบบส่งกำลังมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าสองตัวและระบบขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยไฟฟ้า xDrive สำหรับรุ่น BMW iX xDrive40 edition สามารถสร้างกำลังแรงม้าได้สูงสุดถึง 326 แรงม้า (240 กิโลวัตต์) และรุ่น BMW iX Drive50 สามารถสร้างกำลังแรงม้าสูงสุดได้ถึง 523 แรงม้า (385 กิโลวัตต์) โดยทั้งสองรุ่นสามารถชาร์จไฟจาก 10-80 เปอร์เซ็นต์ในเวลาน้อยกว่า 40 นาที BMW iX จึงตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ใช้รถในการเดินทางเป็นประจำอย่างแน่นอน

BMW i7

        ยนตรกรรม Sedan ขนาดใหญ่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรก ในรหัส i7 xDrive60 ซึ่งมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน 4 ล้อ ด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมขนาด 101.7 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดที่ 625 กิโลเมตรและสร้างกำลังแรงม้าได้ถึง 544 แรงม้า การตกแต่งภายนอกยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์กระจังหน้าทรงไตคู่ขนาดใหญ่ แต่มีการเปลี่ยนทรงไฟหน้าแบบบางเรียว

แน่นอนว่าไฮไลท์ของ BMW 7 Series ในทุก ๆ รุ่นคือภายในห้องโดยสารที่มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายสำหรับ i7 ก็เช่นกัน มันมาพร้อมกับการเชื่อมต่อที่ครบครับผ่านเครือข่าย 5G พร้อมระบบ iDrive8 Software หน้าปัดไมล์ทรงโค้ง BMW Curved Display ขนาด 12.3 นิ้ว ที่เชื่อมต่อกับจอกลางขนาด 14.9 นิ้ว, พวงมาลัยแบบ D-Shape, หลังคา Sky Lounge panoramic glass roof ตกแต่งด้วยไฟ LED, จอ Theater Screen ขนาด 31.3 นิ้วรองรับความละเอียดระดับ 8K ที่เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับผู้โดยสารตอนหลังมาพร้อมม่านบังแดดและเบาะนั่งแบบปรับเอนได้ถึง 42.5 องศา มากไปกว่านั้นยังมีระบบเสียงระดับพรีเมียม Bowers & Wilkins Diamond Surround Sound 1,965 watts ลำโพง 36 ตัว ซึ่งจะเปลี่ยนรถของคุณให้เหมือนดั่งโรงภาพยนตร์ส่วนตัว BMW i7 คือยนตรกรรมไฟฟ้าสำหรับผู้บริหารอย่างแท้จริง

 

 

 

Share