BMW Z4 (G29) 2018
Z4 ถูกกลับมาเป็นที่จับตามองอีกครั้ง เมื่อมีข่าวถึงการปัดฝุ่นใหม่ให้โปรเจ็กต์ Roadster นี้อีกครั้ง โดยมีการร่วมลงทุนกับค่ายญี่ปุ่นเพื่อให้ได้มาซึ่งทายาทสปอร์ตที่สุดขั้วจากแบบแปลนเดียวกัน นั่นทำให้ BMW Z4 รุ่นล่าสุดจึงเกิดขึ้นพร้อมกับฝาแฝดอย่าง TOYOTASUPRA
ไม่นานก็ถึงเวลาอันเหมาะสมในการกลับมาของ BMW Z4 ที่ครั้งนี้โฉบเฉี่ยวยิ่งกว่า หรูหรายิ่งกว่า และแรงยิ่งกว่าเดิม มันถูกเปิดเผยสู่สายตาสาธารณชนที่ Pebble Beach รัฐแคลิฟอเนียร์ในสิงหาคมปี 2018 หลังจากนั้นไม่นานก็ได้เปิดตัวในประเทศไทยในงาน MOTOR SHOW ช่วงเดือนมีนาคมปี 2019
งานออกแบบตัวถังภายนอกถูกรื้อของเก่าออกไปทั้งหมด แต่ยังคงความเป็น Roadster ตัวจริงด้วยตัวถังแบบหน้ายาวท้ายสั้น ไฟหน้าที่เปลี่ยนเป็นแนวตั้งพร้อม Adaptive LED พร้อมเทคโนโลยี Cutting-Edge Matrix ที่ถือเป็นการเปลี่ยนรูปแบบไฟหน้าของ BMW ที่เคยผ่านมา กับกระจังดีไซน์แบบไตคู่ตามธรรมเนียมแต่แปลกตาด้วยตะแกรงแบบสามมิติแทนกระจังแนวตั้งแบบเก่า อีกหนึ่งสิ่งที่จะสะกดสายตาของคุณไว้อยู่ที่ Air Breather ขนาดใหญ่ที่ขนาบข้างอยู่หลังซุ้มล้อหน้า โดยนอกจากความสวยงามแล้วยังทำหน้าที่ระบายความร้อนที่สะสมอยู่ไม่ว่าจะจากเบรกหรือยางออกจากซุ้มล้ออีกด้วย
ความพิเศษอีกอย่างอยู่ที่โครงสร้างที่ BMW เคลมว่าเป็น Roadster ที่มีโครงสร้างเพื่อรับแรงบิดได้ดีที่สุดตั้งแต่เคยทำมา ส่วนหนึ่งเพราะต้องชดเชยให้กับหลังคาผ้าใบที่ถูกนำเอามาใช้แทนหลังคาแข็งแบบรุ่นก่อน ซึ่งนอกจากจะให้ความอบอุ่นในแบบคลาสสิกแล้วมันยังทำให้จุดศูนย์ถ่วงต่ำลงอีกด้วย ซึ่งหลังคาผ้าใบนี้เปิดปิดด้วยไฟฟ้าที่ใช้เวลาทำงานเพียง 10 วินาที และสามารถกดเปิดได้แม้รถวิ่งอยู่ในความเร็วไม่เกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เปิดประตูเข้ามาก็จะพบได้กับเบาะหนังแท้ชั้นดี กับความล้ำสมัยของแผงมาตรวัดความเร็วแบบดิจิตอลล้วน และ Head Up Display ระบบทัชสกรีน ขนาด 10.25 นิ้ว ที่ทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ BMW Operating System 7.0 (OS7) กับผู้ช่วยส่วนตัว BMW Intelligent Personal Assistant รองรับการสั่งงานด้วยเสียง ถึงแม้ไม่มี Around View แต่ก็ไม่ลืมที่จะใส่กล้องมองหลังมาให้ หัวเกียร์ใหม่ที่อวบอ้วนรายล้อมด้วยปุ่มควบคุมฟังก์ชั่นต่าง ๆ วางอยู่ที่คอนโซลกลาง รวมถึงปุ่ม Start/Stop ก็ย้ายมารวมอยู่กับชุดนี้ โดยรูปลักษณ์ใหม่ของ Z4 ไม่ได้มีการเบียดเบียนการขนสัมภาระแต่อย่างใด มิหนำซ้ำมันยังจุได้มากถึง 281 ลิตร ซึ่งนั่นมันมากกว่ารุ่นก่อนถึง 50 เปอร์เซ็นต์
สำหรับ Z4 ใหม่นี้ทำตลาดในไทย 2 รุ่น คือ sDrive 30i Msport ใช้เครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร TwinPowerTurbo 258 แรงม้า เร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแบบบชิลล์ ๆ เพียง 5.4 วินาที และรุ่นท็อปอย่าง M40i 6 สูบ 340 แรงม้า 4.5 วินาที ทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับ BMW Driving Experience Control ที่สามารถปรับแต่งการตอบสนองให้เหมาะสมกับการขับขี่ตั้งแต่ ECO, COMFORT และ SPORT ไปจนถึง SPORT+ ที่ดุเดือด
ความแตกต่างของ M40i ไม่ใช่แค่เพียงเครื่องยนต์ 6 สูบ รหัส B58 ที่เพิ่งพัฒนาออกแบบมาสด ๆ ร้อน ๆ เพียงเท่านั้น แต่ยังเพิ่มการตกแต่งภายในด้วยหนังแท้ Vernasca ตัดกับวัสดุ Sensatec เครื่องเสียง Harman Kardon พร้อมเพิ่มพวงมาลัยสปอร์ตและเข็มขัดที่เสริมแถบสี M Strip ในแง่ของการขับขี่มันก็มาพร้อมช่วงล่าง Adaptive M Suspension เป็นอุปกรณ์มาตรฐานที่ทำให้ M40i เตี้ยลง 10 มิลลิเมตรเมื่อเทียบกับรุ่นปกติ พร้อมระบบเบรก M Sport ด้วยคาลิเปอร์สีน้ำงิน
แต่การผสมผสานทั้งรูปลักษณ์ที่สะท้อนความสปอร์ตบนท้องถนน และความเพียบพร้อมด้วยบรรยากาศสุดหรูหราในห้องโดยสารที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครันนั้น ก็ไม่สามารถแยกเอา DNA ของความเป็น Z4 ออกจากรุ่นก่อนหน้า ได้ทั้งหมด ในยุคที่ต่างกันร่วม 10 ปีนั้น Z4 ใหม่ ยังคงมอบสุนทรียภาพในการขับขี่จากการกระจายน้ำหนัก 50:50 พร้อมลดจุดศูนย์ถ่วงของรถให้ต่ำลง รวมถึงขยายฐานล้อให้กว้างขึ้นกว่ารุ่นก่อน แต่น่าแปลกที่ลดความยาวของล้อหน้าและหลังให้สั้นลงเพื่อความปราดเปรียว แน่นอนว่าทั้งหมดมีผลต่อแฮนด์ลิ่งที่ดีขึ้น และท้ายที่สุดเราอยากจะบอกว่า M40i มันเป็น Z ที่มีเสียงเครื่องยนต์ไพเราะที่สุด
สำหรับราคาจำหน่ายของ Z4 SDrive30i M Sport อยู่ที่ 3,999,000 บาท และตัวแรงอย่าง Z4 M40i อยู่ที่ 4,999,000 บาท ซึ่งราคาข้างต้นของทั้งสองรุ่นคือราคาที่มาพร้อม BSI Standard
BMWCar Magazine Thailand Issue 51, May-June 2019
สมัครสมาชิกนิตยสารรายปี 6 เล่ม เพียง 1,000 บ. รับฟรี #BIMMERMEET3 T-Shirt Limited Edition มูลค่า 500 บ. คลิก bit.ly/BMWCar-Line
#BMWCarMagazineTH #BMWTH
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น