Charlie Martin สาวข้ามเพศคนแรกของวงการมอเตอร์สปอร์ต

“เมื่อคุณเดินเข้าไปในพิทเลนในวันแข่งขัน… คุณจะได้ยินเสียงเครื่องยนต์คำรามเข้ามาในชีวิตและรู้สึกว่าหัวใจของคุณเต้นรัวในอก… คุณจะรู้สึกมีชีวิตชีวาไม่มีอะไรเทียบได้กับช่วงเวลานั้น เมื่อรถของคุณถูกผลักเข้าสู่สนามแข่ง” Charlie Martin

นี่คือเรื่องราวของ นักแข่งข้ามเพศ คนแรกของประวัติศาสตร์ที่ลงทำการแข่งขันในรายการ 24 Hours of Nürburgring ซึ่งไม่ใช่แค่รายการนี้เท่านั้นที่เธอลงทำการแข่งขัน แต่เธอยังเคยลงทำการแข่งขันอีกหลายรายการ ทั้ง European Hillclimb, Ginetta GT5 Challenge, German VLN Championship รวมถึง Michelin Le Mans Cup อีกด้วย วันนี้ BMW Car Magazine Thailand จะพามารู้จักกับ Charlie Martin กัน

ปฐมบทการค้นพบตัวเองก่อนเข้าสู่วงการกีฬามอเตอร์สปอร์ต
Charlie Martin เกิดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 1981 อายุ 39 ปี ที่เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ โดย Charlie นั้นเป็นหลานสาวของวิศวกร Persie Martin อดีต Work Managerของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติอังกฤษยี่ห้อหนึ่งและเป็นเจ้าของส่วนหนึ่งของ บริษัท เครื่องมือเครื่องจักรที่เขาก่อตั้งเมื่อปี 1921

ในวัยเด็กของ Charlie ก็ไม่ได้มีอะไรแตกต่างไปจากเด็ก ๆ คนอื่นในยุค 80 เธอเป็นคนหนึ่งที่ใฝ่ฝันที่จะเป็นนักบินให้ได้ จากการชมภาพยนต์เรื่อง Top Gun แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตามความฝันเธอดูเหมือนจะเลือนลางหลังจากการสอบวิชาคณิตศาสตร์และฟิสิกส์ ไม่ว่าจะสอบกี่ครั้งก็เหมือนคะแนนของเธอจะได้น้อยและไม่เป็นใจซักที แต่แล้วหนูน้อย Charlie ก็กลับมีสายตาที่เปล่งเป็นประกายอีกครั้ง เมื่อวันหนึ่งเพื่อนซี้ของคุณพ่อ ได้พาเธอไปชมการแข่งขันรถยนต์ทางเรียบที่สนามแข่งขัน ด้วยความที่เป็นคนชอบความเร็วอยู่แล้ว ประกอบกับเสียงที่ได้ยิน กลิ่้นไอของสนามแข่ง ทำให้เธอเกิดความตื่นเต้นและอยากจะเป็นนักแข่งรถ

Charlie เป็นนักแข่งข้ามเพศที่ได้ใช้สถานะของเธอในฐานะนักแข่งรถที่มีชื่อเสียงเพื่อสร้างความตระหนักในเรื่อง LGBT และสิทธิของคนข้ามเพศ เธอค้นพบตัวเอง หลังจากที่ได้รับอิทธิพลจากนางแบบข้ามเพศชื่อดังอย่าง Caroline Cossey โดยเธอได้พูดถึงนางแบบชื่อดังว่า “เธอเป็นผู้ริเริ่มและเป็นผู้บุกเบิกตัวจริงสำหรับชุมชนของคนข้ามเพศ และฉันจำมันได้ชัดเจน มันเป็นช่วงเวลาที่ฉันเห็นแล้วและร้องให้อย่างมีความสุข และบอกกับตัวเองว่า นี่แหละคือสิ่งที่ฉันต้องทำและตอนนั้นฉันอายุเพียง 7 ขวบเท่านั้น ความรู้สึกนั้นก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ จนวันหนึ่งฉันก็คิดว่า จะใช้ชีวิตอยู่ในร่างที่ไม่ใช่ตัวตนแบบนี้จริง ๆ ต่อไปอีกไม่ได้ ยิ่งได้คุยกับสาวๆข้ามเพศหลายคน ก็ยิ่งทำให้ฉันมั่นใจและตัดสินใจที่จะแปลงเพศ”

จุดวิกฤตของ Charlie เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อเธอเคยตัดสินใจที่จะเลิกอาชีพ นักขับรถแข่ง เพราะความกลัวที่จะไม่มีใครยอมรับในตัวตนของเธอเป็น เรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นในปี 2012 ซึ่งเธอเล่าว่า “มันเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับฉันมาก เพราะไม่มีใครยอมรับฉัน ทั้งที่คิดว่าจะได้รับการยอมรับ เพราะมอเตอร์สปอร์ตเป็นสิ่งที่ฉันรักมากที่สุด ฉันพยายามติดต่อหาเพื่อนสนิทเพื่อขอกำลังจากจากเขา แต่ก็มีบางคนที่ไม่พูดอะไรกับฉันต่ออีกเลยจนถึงปัจจุบันนี้ แต่ก็ยังมีเพื่อนๆ อีกหลายคนที่คอยให้กำลังใจอยู่เสมอ ฉันไม่มีวันลืมพวกเขา มันคงเป็นเรื่องที่ยากมากในช่วงเวลานั้นที่เราจะต้องพิสูจน์การเปลี่ยนแปลงอะไรๆทำนองนี้” Charlie กล่าว

ความกล้าเท่านั้นที่ชนะความกลัวได้
อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้เป็นการตัดสินใจที่ Charlie Martin ได้ทำตามใจตัวเองตามต้องการอีกครั้ง “มันเป็นส่วนผสมของอารมณ์ที่แตกต่างกันที่ทำให้ฉันต้องตัดสินใจอีกครั้ง ฉันต้องรวบรวมความกล้าหาญอีกครั้ง ซึ่งจากนี้ไปจนชั่วชีวิตมันจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอีก นี่คือเวลาที่ตกต่ำที่สุดของชีวิต ถ้าคราวนี้ฉันสามารถก้าวข้าวความยากลำบากนี้ไปได้ ก็มันจะไม่มีอะไรหยุดฉันได้อีก” Charlie กล่าว แม้ว่าจะมีความกังวลในหลายๆเรื่องที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ แต่เธอก็ได้เปลี่ยนความกลัวให้เป็นความกล้า และตัดสินใจเพื่อที่จะสามารถเข้าไปอยู่ในสนามแข่งขันได้อยู่ภาคภูมิใจ ด้วยความทะเยอทะยานและต่อสู้ในแบบของเธอ

อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเอาชนะตัวเองในการกลับมาแข่งรถนั้นไม่ใช่แบบแผน หรือ อคติใด ๆ ของผู้คน Charlie กล่าวระหว่างติดกระดุมชุดแข่งรถของเขา เธอพูดต่อไปอีกว่า “ฉันยอมรับว่าในตอนแรกรู้สึกกังวลมาก และคิดว่าทุกคนอาจจะไม่ชอบฉันและมีอคติ แต่แท้จริงแล้ว พวกเขาหลายคนไม่เคยสนทนากับบุคคลข้ามเพศ ทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะพูดคุยและกลัวที่จะพูดอะไรที่ผิดออกไปจริง ๆ แล้วไม่ได้เกิดจากความอคติ แต่เกิดจากความกลัวที่จะสื่อสาร และเมื่อทุกคนเริ่มพูดพวกเขาก็เริ่มเข้าใจฉันมากขึ้น ฉันอยากให้ทุกคนตั้งคำถามแล้วถามมากกว่าจะกลัวในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ มันจะเป็นสิ่งทำลายอุปสรรคที่เกิดขึ้นได้”

อีกเรื่องหนึ่งที่ถือได้ว่าเป็นอุปสรรคสำหรับ Charlie Martin นั่นคือการเงินแต่เธอก็สามารถเอาชนะผ่านมันไปได้ เธอเล่าว่า “เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณจำเป้นต้องอยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ต เงินถือเป็นสิ่งสำคัญและฉันก็โชคดีที่สามารถเอาชนะสิ่งนี้ได้” เธอได้รับการสนับสนุนจากแม่ของเธอด้วยเงิน 400 ปอนด์กับรถแข่งคันแรกของเธอแต่เป็นที่น่าเสียดาย ที่ทั้งพ่อและแม่ของ Charlie ไม่ได้อยู่ดูการประสบความสำเร็จของเธอ เพราะพวกกท่านได้เสียชีวิตไปแล้ว ทั้งพ่อของเธอตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ๆ และแม่ของเธอในตอนที่เธออายุ 23 ปีด้วยโรคมะเร็งทั้งคู่

การฝึกซ้อมและเวลาเท่านั้นที่จะทำให้ได้ชัยชนะ
เมื่อ Charlie Martin เปลี่ยนจากการแข่งขันประเภท Hillclimb หรือการแข่งรถยนต์ขึ้นเขามาสู่สังเวียนการแข่งขันเซอร์กิต รถคันแรกของเธอคือ MINI ซึ่งใช้ลงทำการแข่งขันในรายการ Ginetta GT5 Challenge ต่อมาก็ได้ใช้รถ Norma M30 LMP3 ในการแข่งขัน Michelin Le Mans Cup และจากนั้นก็ได้โอกาสเข้าร่วมทีมที่จะช่วยให้เธอคว้าชัยในการแข่งขันรถในรายการ 24 Hours of Nürburgring ด้วย BMW M240i Racing

“เมื่อฉันเริ่มต้นกับกีฬามอเตอร์สปอร์ต ฉันก็อยากจะทำให้แน่ใจว่าจะไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ซึ่งในวันที่ทำการทดสอบครั้งแรกนั้น ฉันได้เชิญหัวหน้าทีมของฉันมาประชุมด้วย และก็เล่าเรื่องราวของฉันให้เขาฟัง มันเป้นความประทับใจอย่างมากกับสิ่งที่แสดงออก บุคลิกและความรักในกีฬามอเตอร์สปอร์ตคือสิ่งสำคัญที่นี่ นั่นคือสิ่งที่แสดงให้เห็นว่าคุณเป็นใครและคุณอยากเป็นใคร – และนั่นคือเหตุผลที่เราเป็นทีม” Charlie กล่าว แต่สำหรับคู่แข่งของเธอไม่เป็นอย่างนั้น การเริ่มต้นดูเหมือนจะไม่ราบรื่นนัก “ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาฉันมักรู้สึกว่านักแข่งบางคน ยอมเสี่ยงในการแข่งขันอย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันหรือตามหลังผู้หญิงข้ามเพศแบบฉัน”

สิ่งสำคัญสำหรับ Charlie คือต้องการเพิ่มจำนวนนักกีฬาอาชีพที่เป็นเพศหญิงให้กับวงการมอเตอร์สปอร์ต เธอทำมือเป็นสามเหลี่ยมเหมือนพีระมิด พร้อมพูดว่า “ถ้าหากเราอยากเห็นผู้หญิงให้มากขึ้นในวงการมอเตอร์สปอร์ตสิ่งสำคัญคือการเพิ่มจำนวนผู้หญิงเข้าไปในส่วนล่างของฐานพีระมิด และยอดบนสุดนั้นมันคือการแข่งขันรายการ Formula 1 แน่นอนมันจะต้อมีผู้หญิงซักคนที่ก้าวขึ้นไปแตะจุดสูงสุดนั้นได้ในซักวัน การที่ฉันพยายามพิสูจน์ตัวเองอยู่นี่ก็เพื่อต้องการให้ผู้หญิงหลายๆคนเห็นว่า มันไม่ใช่กีฬาสำหรับผู้ชายเท่านั้น แต่ผู้หญิงก็สามารถทำได้”

เมื่อถามว่าอะไรที่ทำให้เธอหลงไหลในกีฬามอเตอร์สปอร์ต? เธอเหวี่ยงแขนของเธอออก พร้อมหันหน้าไปทางพิทเลนละตอบว่า “ที่นี่ มันเหมือนครอบครัวใหญ่ ที่พาคนที่หลงไหลในสิ่งเดียวกันมารวมกันที่นี่ ได้ยินเสียงของเครื่องยนต์คำราม มันทำให้ฉันใจเต้นรัว… คุณรู้สึกมีชีวิตชีวาไม่มีอะไรเทียบได้กับช่วงเวลาลงทำการแข่งขันในสนาม คุณกำลังขับรถอยู่ในสนามแข่ง ได้เหยียบคันเร่งและต้องทุ่มเทให้เต็มที่ ไม่มีอะไรสำคัญอีกแล้วในชีวิตนี้ เมื่อฉันมีสมาธิเต็มที่ในช่วงเวลานี้ ฉันรักมันที่สุด”

อนาคตอันสดใสของ Charlie
ตลอดระยะเวลา 97 ปีในการประวัติศาสตร์การแข่งขันนี้ ไม่เคยมีนักขับที่เป็นสาวข้ามเพศเข้ามาอยู่ในจุดสตาร์ทของรายการมาก่อน การลงแข่งขันในรายการทำให้ Charlieโด่งดังไปทั่วโลกนี้ จึงนับเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ในการสร้างความหลากหลายในกีฬามอเตอร์สปอร์ต แม้ว่า Charlie Martin เธอจะไม่ได้ขึ้นยืนบนโพเดี้ยม การได้ลำดับสี่ก็นับเป็นความสำเร็จที่เธอไม่ได้คาดฝัน เธอได้ตามความฝันของเธอแล้ว “ฉันอยากลงแข่งขันในรายการ 24 Hours of Le Mans มานานแล้ว” เธอกล่าวทิ้งท้าย

ข้อมูลจาก www.bmw.com


Share

ใส่ความเห็น