ถึงเวลาของ SEDAN ที่จะคืบคลานจากเงามืด พร้อมเทียบรัศมี COUPE !

ในขณะที่กระแสสังคมส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปให้ความนิยมกับรุ่นคูเป้ แล้วทิ้งบอดี้ซีดานไว้ในเงามืด แต่อย่าลืมว่าตอนนั้นมันก็ทำยอดขายถล่มทลายเหมือนกัน

ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วรถที่ได้รับความนิยมน้อยกว่าพวกนี้ก็มักจะถูกใช้งานอย่างปู้ยี่ปู้ยำและบำรุงรักษาแบบขอไปทีตามราคาที่ร่วงโรยไปตามเวลา ต่างจากรุ่นคูเป้ที่จะถูกเก็บรักษาอย่างดี แต่ข้อดีจากจำนวนยอดจำหน่ายที่มากมายก่ายกองของมันคือ ทำให้ตัวเลือกในท้องตลาดมีเยอะ แต่ก็มีราคาที่กระจัดกระจายกันไปทั้งถูกบ้างแพงบ้าง แต่นั่นก็เป็นการเปิดโอกาสให้คุณมองหารถสภาพสวย

แต่ปัญหาคือเจ้าของซีดานสวย ๆ ส่วนใหญ่มักเก็บงำไว้โดยไม่ค่อยเอาออกมาโชว์ตัวตามงาน ด้วยเหตุผลแค่มันไม่ได้รับความนิยม แต่การจับเอาบอดี้ซีดานมาใช้งาน มันเป็นยาแก้เบื่อชั้นดี สำหรับคนที่อยากตัดเลี่ยนจากกระแสของรุ่นคูเป้ ถ้าไม่นับเรื่องความเป็นหน้าเป็นตาทางสังคมที่ใช้เกทับกันเรื่องของมูลค่า เหนือสิ่งอื่นใดมันยังมอบการขับขี่ที่ไม่เหมือนกับรถคันอื่น แต่ยังคงขับสนุกในแบบของรถ BMW แถมยังมีประตูที่เพิ่มมาอีกสองบานที่ช่วยให้มันใช้งานได้อเนกประสงค์มากขึ้น

เพื่อสานต่อความภาคภูมิใจของ 3 Series E21 นั้น BMW ก็ได้ทุ่มเทกลเม็ดเด็ดทั้งหลายให้ได้มาซึ่ง E30 ที่ยังมีแบบสองประตูเช่นเดิม แต่เพิ่มรูปแบบตัวถังซีดานที่มีความอเนกประสงค์มากขึ้น โดยทั้งซีดานและคูเป้ต่างใช้พื้นฐานเดียวกัน ก็แล้วแต่ความชอบเลย ซึ่งก็ต้องยอมรับว่า E30 ที่ขายในประเทศไทยนั้นจะแตกต่างจากสากลโลกเขาสักหน่อย เพราะบริษัทยนตรกิจที่เป็นผู้จำหน่ายรถ BMW ในสมัยนั้นมักจะเล่นอะไรแผลง ๆ ประมาณว่าจับนู่นมาใส่นี่

โดยในช่วงปี 1984 ประเดิมตลาด E30 ด้วยรุ่นเล็กอย่าง 316 เครื่อง M10 คาร์บูเรเตอร์ กันชนบิ๊กเหมือนสเปคอเมริกา ไฟท้ายกรีดร่องแบ่งเป็นสองชั้น ซึ่งมันขายดีจนต้องนำเข้าทั้งคันเพื่อนำมาขาย เพราะผลิตไม่ทัน ดังนั้น E30 ในไทยบางคันก็จะเป็นรถนำเข้าทั้งคัน ซึ่งตรงนี้สามารถสังเกตได้จากหูลากที่ด้านหน้า ถ้าคันไหนมีหูลากทั้งสองฝั่งก็สงสัยไว้ก่อนว่าคันนั้นอาจจะเป็นรถนำเข้า หลังจากนั้นก็ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ตามเมืองนอกในปี 1988 ซึ่งรุ่นนี้จะสังเกตได้ง่ายจากไฟท้ายที่กรีดร่องแบ่งเป็นสามชั้น ทำให้มันมีนิคเนมประจำตัวว่า ‘รุ่นไฟท้ายสามชั้น’ มาพร้อมกับเครื่องยนต์ M40 หน้าตาดูทันสมัยขึ้นเยอะกับหัวฉีด Bosch และใช้สายพานไทม์มิ่งแทนโซ่อย่างที่ใช้ใน M10 ทำให้เสียงเครื่องมันนุ่มนวลขึ้นเยอะ

ในรุ่นท้ายสามชั้นนี้จะมีรุ่น 316i เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร M40B16 102 แรงม้า ที่มีแต่เกียร์ธรรมดาเท่านั้น และรุ่น 318i เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร M40B18 115 แรงม้า แถมในช่วงปลายของตลาดก็มีรุ่น 318iA ที่ใส่เกียร์อัตโนมัติ 4 Speed เพิ่มมาอีกรุ่นซึ่งถือเป็นตัวท็อปในสมัยนั้น แต่ก็ยังมีท็อปสุด ๆ สำหรับรุ่นสุดท้ายของ E30 ในบ้านเรา ที่ทำมาเพื่อต่อกรกับ 190E ช่วงประมาณปี 1992 ยนตรกิจจำเป็นต้องงัดไพ่ใบสุดท้ายออกมาด้วยการสวมชุดพาร์ท ‘M-Technic II’ ให้กับ E30 รุ่นสุดท้ายที่จำหน่ายในเมืองไทย ซึ่งการทำตลาดช่วงสุดท้ายของมันในปลายปี 1992 ถึงต้นปี 1993 นั้น มันจอดขึ้นโชว์รูมคู่กันกับ 316i E36 เลยทีเดียว

ทั้งหมดเรากำลังพูดถึง E30 รุ่นสุดท้าย ที่มีไฟหน้าเป็นแบบ ‘ยิ้มล่าง’ จากช่องไฟหรี่ทรงครึ่งวงกลมที่ล้อมรอบอยู่ด้านล่างของโคมโปรเจ็กเตอร์ กับชุดแอโรพาร์ทรอบคันที่ประกอบไปด้วยกันชนหน้าและกาบข้างรอบคันทรงสปอร์ตที่ของแท้จะเป็นงานพลาสติกสามารถแยกชิ้นได้ทุกชิ้น ส่วนที่เราเห็นกันเกลื่อนถนนนั้นก็มีบ้างที่ถูกก๊อบปี้ขึ้นมาด้วยวัสดุไฟเบอร์ ซึ่งแม้จะมีรูปทรงที่ใกล้เคียงแต่ความเนี้ยบของงานนั้น ‘คนละเรื่อง’

กันชนหน้าที่มีชายล่างแบบที่ตัดตรงลงมาทำให้มันดูเตี้ยลง พร้อมเว้าช่องสปอร์ตไลท์ที่มีความโค้งมนกว่า M-Technic I ที่อยู่ในรุ่นไฟท้ายสองชั้น กับช่องลมไว้สำหรับเป่าเบรกที่ลบเหลี่ยมคมลงไปเยอะ ทำให้หน้าตามันดูทันสมัยเข้ากับยุค 90’s กาบข้างประตูมีการกรีดร่องรับกับเส้นสายของกันชนหน้าและหลัง สปอยเลอร์หลังสองชั้นเป็นไอเทมที่แปลกตาที่สุดในยุคนั้น มันฉีกกฎของสปอยเลอร์ทรงตูดเป็ดเล็ก ๆ อย่างที่ BMW เคยทำมาให้กับรถโปรดักชั่นคาร์ที่ผ่านมา

ภายในของทั้งรุ่นเครื่องยนต์ M10 และ M40 โดยส่วนใหญ่แล้วมันแทบไม่ต่างกัน แต่จะต่างกันในดีเทลเล็ก ๆ อย่างตรงสวิตช์ต่าง ๆ ในคันนี้มีพวงมาลัย MT2 ที่คนเล่นเรียกกันติดปากว่า ‘เปาเล็ก’ จากนวมกลางของพวงมาลัยที่กลมอวบเหมือนซาลาเปา ซึ่งก็จะมีพวงมาลัย M อีกรุ่นที่นวมกลางใหญ่กว่านี้อย่างชัดเจนอันนั้นก็จะเรียกกันติดว่าเปาใหญ่ ภายในของมันถูกเก็บรักษาไว้อย่างทรงคุณค่าด้วยบรรดาอุปกรณ์ตกแต่งที่ล้วนเป็น ‘ของดี’ ที่ตรงยุคทั้งนั้น เบาะผ้า M ที่นำมาเปลี่ยนแทนเบาะหนังชุดที่ติดรถมา เป็นธรรมเนียมที่นักเลง E30 นิยมหาเอาของมาใส่กัน

สุดท้ายแล้วถึงเวลาที่บอดี้ซีดานจะต้องถูกนำมาปัดฝุ่นแล้วตกแต่งอย่างมีรสนิยม เพื่อจะได้เฉิดฉายไปตามงานโชว์ได้แบบไม่อายใครและแน่นอนว่าบอดี้ซีดานคุณสามารถหามันได้ตามงบที่คุณต้องการจากตลาดออนไลน์แบบไม่ยากเย็นนัก คุณอาจเป็นเจ้าของมันได้ด้วยเงินหลักหมื่น แต่มันจะดีกว่าถ้าคุณรอจังหวะที่จะได้รถที่มีสภาพตัวถังที่สวยและมีภายในที่ไม่โทรมราวกับไปวิ่งฝ่าดงระเบิดมา จากคนที่รักรถ E30 ซีดานและใช้งานมันอย่างทะนุถนอม ซึ่งนั่นน่าจะช่วยแบ่งเบาภาระในการเป็นเจ้าของซีดานในฝันอย่างที่คุณไม่ต้องเหนื่อยมากนัก

BMWCar Magazine Thailand Issue 49, January-February 2019

สมัครสมาชิกนิตยสารรายปี 6 เล่ม เพียง 1,000 บ. รับฟรี #BIMMERMEET3 T-Shirt Limited Edition มูลค่า 500 บ. คลิก bit.ly/BMWCar-Line

Share

ใส่ความเห็น