คุณลองนึกถึงเครื่องมือสื่อสารค่ายผลไม้ที่เปิดตัวสีใหม่ให้กับสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดดูสิ แล้วจะรู้ว่าสีเป็นเรื่องที่สำคัญในการมัดใจผู้บริโภค สีตัวถังของ BMW เองก็เช่นกันมันเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของรถได้อย่างชัดเจน
ทีมนักออกแบบของ BMW จึงต้องทำการบ้านอย่างหนักเพื่อให้ได้มาซึ่งสีพิเศษที่สามารถตอบโจทย์ให้กับลูกค้าของเขาในทุกครั้งที่เปิดผ้าคลุมออกมา ยิ่งไปกว่านั้นสีของรถ BMW M มักจะถูกตั้งชื่อตามสนามแข่งขันชื่อก้องโลกเพื่อตอกย้ำถึงตำนานอันยาวนานของ BMW Motorsport ที่มีจุดกำเนิดจากสนามแข่งอันเป็น DNA ที่ถ่ายทอดมาสู่รถ BMW M ทุกคัน เพื่อสะท้อนถึงจิตวิญญาณของเจ้าของผู้ที่มีใจรักในมอเตอร์สปอร์ตอย่างไม่มีขอบเขต ยกตัวอย่างเช่น Marina Bay Blue ที่ตั้งชื่อตามสตรีทเซอร์กิตในสิงคโปร์, Imora Red ที่ได้แรงบันดาลใจจากสนามแข่ง F1 ในอิตาลี, Sepang Bronze ที่ตั้งตามชื่อสนามแข่งระดับโลกของประเทศมาเลเซีย
Hockenheim Silver Metallic บน BMW S1000RR
และล่าสุดสีของรถ BMW M ก็ยังถูกนำมาใช้กับ BMW Motorad เป็นครั้งแรก บนมอเตอร์ไซค์ BMW S1000RR รุ่นล่าสุดเพื่อยกระดับความพิเศษขึ้นด้วยสี “Hockenheim Silver Metallic” โดยสีเทาที่ดูเรียบง่ายแต่เย้ายวนใจนี้ถูกตั้งชื่อตามสนาม Hockenheimring สนามแข่งขันรถยนต์ในหุบเขาของเมือง Hockenheim ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน F1 รายการ German Grand Prix ครั้งแรกในปี 1970 และในการแข่งขันเปิดฤดูกาล DTM 2019 ทีม BMW Motorsport ก็สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการคว้าชัยชนะในการแข่งขัน DTM ยุคสมัยใหม่ที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบบนสนาม Hokkenheimring แห่งนี้เอง โดย Hockenheim Silver Metallic เปิดตัวครั้งแรกใน M2 Competition รวมถึง M8 Competition Gran Coupe และถูกนำมาใช้อีกครั้งบน M2 CS อีกด้วย
สำหรับรถ BMW M รุ่นอื่นที่อยากได้สีเทาอันงดงามอย่าง Hockenheim Silver Metallic นี้ ก็สามารถสั่งทำพิเศษได้ ภายใต้ BMW individual special paintwork program โดยนอกจากคุณประโยชน์ที่ได้รับจากสีสันอันสวยงามเหล่านี้จะแสดงผลอย่างตรงไปตรงมาทุกครั้งที่คุณมองดูมันแล้ว แน่นอนว่ามันจะยังคงย้ำเตือนถึงจิตวิญญาณของความเป็นมอเตอร์สปอร์ตที่ BMW บรรจงใส่มันลงไปในรถ BMW M และมอเตอร์ไซค์ BMW Motorrad อย่างเต็มภาคภูมิและมันอาจฟังดูตลกเมื่อพบว่าสีเหล่านี้มักจะมีผลในการประกอบการตัดสินใจของผู้ซื้อรายใหม่ ในกรณีที่คุณต้องการเปลี่ยนมือ รถสีพิเศษเหล่านี้มักจะเป็นที่น่าสนใจและมีราคาที่ค่อนข้างแข็ง โดยนอกจากสี Hockenheim Silver แล้ว ยังมีสีอื่น ๆ ที่อ้างอิงจากการแข่งขันอีกมากมาย อาทิ
laguna seca blue บนรถ e46m3
Laguna Seca Blue สีฟ้าที่สดใสนี้ถูกตั้งชื่อตามสนามแข่ง Raceway Laguna Seca ซึ่งตั้งอยู่ในแคลิฟอเนียร์ สหรัฐอเมริกา นับเป็นสถานที่สำคัญในประวัติศาสตร์การแข่งขันของ BMW ที่ทีม BMW Motorsports มาชนะการแข่งขันที่นี่ด้วย BMW 24 GTLM ประสบความสำเร็จตั้งแต่ปีแรกที่เปิดตัว โดยจบอันดับสองในรายการ USCC 2014
Dakar Yellow บนรถ M3 E36
Dakar Yellow การแข่งขันที่ทรหดจาก Paris-Dakar โดยผู้ชนะในปี 2014 คือรถ MINI ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าใช้เครื่องยนต์ BMW ดีเซล 3.0 ลิตร
Lemans Blue บนรถ M3 E92
Lemans Blue สีนี้มีต้นกำเนิดมาจากการแข่งขัน Lemans 24 ชั่วโมง ที่ต้องทดสอบทั้งความแข็งแกร่งของรถแข่ง รวมถึงนักขับ และทีมงาน ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่ง BMW ได้เข้าร่วมและชนะการแข่งขันในปี 1999
Imola Red บนรถ M5 F90
Imora Red เกิดขึ้นหลังจากที่ BMW Williams ชนะการแข่งขันครั้งแรกในปี 2001 ที่สนาม Imola F1 ใน San Marino โดย Ralf Schumacher เป็นผู้รับธงหมากรุก และชัยชนะครั้งนี้ถือเป็นความภาคภูมิใจของ Williams FW23 ที่แม้ว่าทั้งฤดูกาลนั้นทำผลงานได้ไม่ค่อยน่าเชื่อถือเท่าไหร่ แต่สนามนี้ก็กู้หน้าทำให้เป็นที่รู้จักในเรื่องของความเร็วและพลังที่แท้จริง
Estoril Blue บนรถ M760Li-XDrive G12
Estoril Blue ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Autodromo do Estoril สนามแข่งในโปรตุเกสซึ่งเป็นเจ้าภาพในการแข่ง Formula-1 Grand Prix (F1 GP) ตั้งแต่ปี 1984-1996 โดย Aryton Senna ชนะการแข่งขันครั้งแรกที่ Estoril ในขณะที่ BMW ก็เปิดตัว 4 Series ที่นี่เช่นกัน
Kyalami Orange บนรถ Z3
Kyalami Orange ตั้งชื่อตาม Kyalami Racing Circuit เป็นสนามแข่งที่ตั้งอยู่ในแอฟริกาใต้ ที่มักจะมี BMW Car Club Gauteng รวมตัวกันไปวิ่งแทร็คเป็นครั้งเป็นคราว ยิ่งไปกว่านั้นทางกลุ่มได้เลือก Kyalami เป็นสถานที่จัดงาน Guinness World Record Parade ในปี 2013 ซึ่งมีรถ BMW มาร่วมขบวนมากถึง 446 คัน
Montreal Blue บน E36
Montreal Blue อ้างอิงจากการแข่งขัน Grand Prix ใน Montreal แคนาดา โดย Robert Kubica ชนะการแข่งขัน F1 โดยสังกัดทีม BMW Sauber ในปี 2008
Silverstone Metallic บนรถ M4 F82
Silverstone Metallic สำหรับสนาม Silverstone เป็นสนามแข่งรถที่มีชื่อเสียงของอังกฤษ รถ BMW ได้รับชัยชนะที่นี่หลายต่อหลายครั้ง ยกตัวอย่างชัยชนะที่มีชื่อเสียงอย่าง ชัยชนะของทีม Duller Motorsport (BMW Z4) ในปี 2006-2007 ใน Silverstone Britcar 24 Hour นอกจากนี้ในปี 2014 Ryuichi Kiyonari ฉลองชัยชนะใน BSB ที่มีมากกว่า 50 ครั้งที่ Silverstone ด้วยรถ S1000R
Monaco Blue บนรถ Z4Mcoupe E86
Monaco Blue เราทุกคนทราบดีว่า Monaco Blue ได้รับแรงบันดาลใจจากอะไร สนามแข่งรถในเมือง Monaco ที่มีชื่อเสียง ที่เรียกว่า Monte Carlo ซึ่ง JP Montoya มาครั้งแรกใน 2008 Monaco GP โดยขับรถ BMW, Monte Carlo เป็นหนึ่งในสนามที่ใช้สำหรับแข่งขัน BMW M1 Procar Championship ที่จัดขึ้นในปี 1979 และ 1980
Valencia Orange บนรถ M135i
Valencia Orange ตั้งชื่อตาม Valencia-Ricardo Torno Circuit ซึ่ง BMW จัดการแข่งขัน Young Talent Cup นอกจากนี้ยังต้องมีการกล่าวถึงทีม BMW Oracle Racing บนชายฝั่ง Valencia ชนะการแข่งขัน America’s Cup ถึง 33 ครั้ง
Sepang Bronze บนรถ M5 E60
Sepang Bronze ได้รับอิทธิพลจากสนามแข่ง F1 ในมาเลเซีย ในปี 2002 Ralf Schumacher ขับรถ BMW Williams ของเขาเข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่ง
Sakhir Orange บนรถ M5 F10
Sakhir Orange เป็นการอ้างอิงถึงสนาม Bahrain International Circuit ตั้งอยู่ใน Sakhir ที่นอกจาก F1 GP แล้วยังมีการแข่งขัน Endurance 24 Hour ที่สนามนี้อีกด้วย
Melbourne Red บนรถ M3 F80
Melbourne Red – Melbourne เป็นสนามแข่ง F1 ของออสเตรเลีย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมือง Melbourne และวิ่งไปรอบทะเลสาบ Albert Park ซึ่ง BMW Track days ก็เคยจัดขึ้นที่นี่
Indianapolis Red บนรถ M6
Indianapolis Red ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Indianapolis Motor Speedway ซึ่งมีการแข่งขันหลายรายการ รวมถึง F1 GP, NASCAR Series, Indy Car Series และ MotoGP
Yas Marina Blue บนรถ M3 F80
Yas Marina Blue สีฟ้าที่สดใสนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากสนามแข่ง Formula1 ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในอาบูดาบี
Daytona Violet บนรถ M8 Competition
Daytona Violet ได้รับแรงบันดาลใจจากสนามแข่งใน Daytona, Florida ที่เป็นจุดกำเนิดของการแข่งขันที่มีชื่อเสียงอย่าง Daytona500 ที่วิ่งแข่งกันในระยะทาง 500 ไมล์
ใส่ความเห็น
คุณต้องเข้าสู่ระบบ เพื่อจะพิมพ์ความเห็น